ตลาดเกมคอนโซลมีผู้เล่นหลักสามรายมานานหลายทศวรรษ โดยมี Sony, Microsoft และ Nintendo ครองพื้นที่ด้วยการนำเสนอคอนโซลที่ทรงพลังเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมบนโซฟาที่ยอดเยี่ยม โดย PlayStation 5 ของ Sony เป็นรุ่นล่าสุดที่ทำยอดขายแซงหน้าคอนโซล Xbox ทุกรุ่น
และตอนนี้ มีผู้เข้าแข่งขันรายใหม่เข้ามาในวงการ นั่นคือ Steam Machine ที่ Valve เพิ่งประกาศเปิดตัว ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งที่สองในการสร้างประสบการณ์ PC คอนโซลแบบไฮบริด โดยขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์แบบกึ่งสั่งทำพิเศษ AMD Zen 4 6-core และชิปกราฟิก RDNA 3 28CU (Compute Units)
ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด รวมถึงการเชื่อมต่อและการทำงานของระบบปฏิบัติการที่คล้ายคลึงกับคอนโซล (ผ่าน HDMI 2.0 และ DisplayPort 1.4) จึงทำให้ Steam Machine ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มคู่แข่งเดียวกับคอนโซลยักษ์ใหญ่ที่กล่าวถึงข้างต้นโดยอัตโนมัติ
แทนที่เกมเมอร์คอนโซลจะต้องถูกจำกัดอยู่แค่เกม Exclusive ของ PlayStation หรือ Xbox (ส่วนใหญ่เป็นอดีต) Steam Machine จะเชื่อมช่องว่างนี้ด้วยการนำเสนอการตั้งค่าการเล่นเกมบนโซฟาผ่านทีวี พร้อมเกมให้เล่นที่หลากหลายมากขึ้นผ่าน Steam ซึ่งหลายเกมเคยเป็นเกม Exclusive ของ PlayStation มาก่อน
ไม่ว่าหลายคนจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม Steam Machine ถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อทั้ง Sony และ Microsoft และคอนโซล PS5 และ Xbox Series X|S ของพวกเขา ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ Xbox กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤตเอกลักษณ์ในฐานะแบรนด์คอนโซล
หาก Valve สามารถตั้งราคา Steam Machine ได้น่าสนใจ และแสดงประสิทธิภาพที่ไม่ห่างไกลจากคู่แข่งใหม่นี้ ใช่แล้ว Sony และ Microsoft ควรจะต้องเป็นกังวลอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ผมต้องเน้นย้ำว่า ผมมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเล็กน้อย และอาจเป็นปัญหาสำคัญบางประการเกี่ยวกับความสามารถของ Valve ที่จะทำให้ Xbox และ PlayStation ต้องเหลียวหลังมองได้
1. VRAM แค่ 8GB เป็นเรื่องที่น่ากังวลในปี 2025
ข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดอาจเป็นเรื่องที่ Steam Machine มี VRAM (GDDR6) เพียง 8GB สำหรับเกม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต่อต้านอย่างรุนแรงในทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปเกมมิ่งหรือเดสก์ท็อป GPU เนื่องจากมักจะเป็นข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพในเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง
แม้ว่าการทดสอบล่าสุดของผมกับแล็ปท็อปเกมมิ่ง RTX 5070 ที่ใช้ VRAM 8GB จะทำได้ดีอย่างน่าประหลาดใจที่ความละเอียด 1080p และ 1440p เมื่อใช้เทคนิค Upscaling แต่ข้อกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานของระบบนั้นมีเหตุผล เมื่อพิจารณาว่าเกมสมัยใหม่ต้องการ VRAM สูงมาก แต่ก็ควรตระหนักว่าการตัดสินใจใช้ VRAM เพียง 8GB ของ Valve อาจเป็นไปเพื่อให้มั่นใจว่าราคาของ Steam Machine จะไม่สูงจนเกินไป
เครื่องมืออย่าง Frame Generation จะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเล่นที่ความละเอียดต่ำกว่า เช่น 1080p และการ Upscaling แบบ Super-Resolution จะเหมาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นที่ 4K เนื่องจากจะช่วยลดการใช้ VRAM ลงได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผมยังคงกังวลว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการใช้การ Upscaling ที่รุนแรง เช่น การใช้โหมดประสิทธิภาพ FSR 3 หรือผู้ใช้จะต้องลดการตั้งค่ากราฟิกอย่างมากเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ VRAM 8GB จนเต็ม และเพื่อให้บรรลุ 60fps ที่ความละเอียด 4K ตามที่ Valve อ้างไว้
2. การตั้งราคาอาจเป็นตัวตัดสินอนาคตของ Steam Machine
ขอย้ำให้ชัดเจนตรงนี้: ผมเชื่อมั่นใน Valve อย่างเต็มที่ว่าจะทำให้ Steam Machine มีราคาที่เข้าถึงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เหมือนที่เคยทำกับ Steam Deck ปัญหาคือ ผมกังวลว่าราคาอาจจะไม่ถูกและเข้าถึงได้เท่าที่เราหลายคนคาดหวัง
นี่ไม่ใช่ความผิดของ Valve แต่เป็นเรื่องของตลาดที่เกี่ยวกับ SSD และ RAM ราคาของหน่วยความจำ NAND Flash กำลังเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันอีกครั้งเนื่องจากภาวะขาดแคลนและความต้องการสูงจากศูนย์ข้อมูล AI รวมถึงราคาของ RAM Sticks ที่กำลังเผชิญกับการขึ้นราคาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดผู้บริโภคในสหรัฐฯ
ความหวังเดียวในที่นี้คือ Valve รู้สึกว่าราคาที่ต่ำและเข้าถึงได้สำหรับ Steam Machine จะไม่เป็นความเสียหายครั้งใหญ่ (เนื่องจากราคา SSD และ RAM ที่เพิ่มขึ้น) จากต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจาก Valve มีความสำเร็จทางการเงินมากมายจากร้านค้า Steam อยู่แล้ว
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคาดหวังว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ $650 / £500 / AU$1,000 (ประมาณ 21,000 บาท)ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจ หากราคาไม่เหมาะสมกับ Steam Machine มันจะไม่ส่งผลดีต่อ Valve เลย
3. Valve อาจจะขายผ่านร้านค้า Steam เท่านั้น
ผมยืนหยัดในหลักการที่ Valve ได้กำหนดไว้ในการขายผลิตภัณฑ์ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Steam Deck บนร้านค้า Steam แต่เพียงผู้เดียว เพราะพิสูจน์แล้วว่าสามารถจำกัด Scalpers (ผู้กว้านซื้อไปเก็งกำไร) ไม่ให้ทำลายความสนุกของผู้บริโภคที่แท้จริงได้ นอกจากนี้ยังมีการจำกัดให้ซื้อ Steam Deck ได้เพียงบัญชี Steam เดียว ซึ่งทำให้การเก็งกำไรโดยรวมยากขึ้น
แล้วปัญหาเกี่ยวกับ Steam Machine คืออะไร? หาก Valve ตั้งใจที่จะแข่งขันกับคอนโซลเกมยุคปัจจุบันของ Sony และ Microsoft ผมไม่สงสัยเลยว่าการขาย PC คอนโซลไฮบริดใหม่นี้ผ่าน Steam เท่านั้นจะส่งผลกระทบต่อยอดขาย
กล่าวให้ชัดเจนคือ มีเกมเมอร์จำนวนมากที่ไม่คุ้นเคยกับ Steam ที่เปลี่ยนมาจากคอนโซล หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมเป็นครั้งแรก ซึ่งผมคิดว่า Valve จะใช้มาตรการจำกัดหนึ่งเครื่องต่อหนึ่งบัญชีด้วย
ไม่ใช่ผู้บริโภคทุกคนที่ยินดีจะลงทะเบียนหลายบัญชีเพื่อซื้อเครื่องให้ตัวเองหรือผู้อื่น และร้านค้า Steam เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเทียบรัศมีการดึงดูดผู้บริโภคของ Amazon, Best Buy, Argos (UK), Newegg หรือผู้ค้าปลีกรายใหญ่รายอื่น ๆ ได้
ผมหวังเพียงว่า หาก Steam Machine ยังคงจำหน่ายเฉพาะบนร้านค้า Steam มันจะไม่จำกัดการเข้าถึงและศักยภาพในการท้าทาย PS5 และ Xbox Series X|S ได้มากเกินไป
Leave a Reply