แฟน ๆ Cyberpunk ได้เฮ เพราะดูเหมือนว่า Cyberpunk 2 จะมีโหมด multiplayer อย่างแน่นอน หลัง CD Projekt Red เปิดรับสมัคร Lead Network Engineer ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสถาปัตยกรรมเครือข่าย, สร้างระบบออนไลน์, matchmaking, ปรับแต่งประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์ และแก้ปัญหา latency ให้รองรับผู้เล่นจำนวนมาก การประกาศจ้างงานครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า CDPR กำลังจริงจังกับการใส่ฟีเจอร์ออนไลน์ในภาคต่อ
การมาของ multiplayer จะช่วยให้โลก Night City ในภาคใหม่มีชีวิตชีวาและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ผู้เล่นอาจได้ร่วมทำภารกิจ co-op หรือแข่งขันกันในโหมดพิเศษ เพิ่มคุณค่าให้กับเกมที่แต่เดิมเน้นประสบการณ์ single-player อย่างเดียว การที่ CDPR เริ่มเตรียมทีมตั้งแต่เนิ่น ๆ แสดงถึงความตั้งใจสร้างระบบที่เสถียร ทั้งเรื่อง latency, server capacity และการป้องกันปัญหาการโกง เพื่อให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ออนไลน์ที่ดี
อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของการทำ multiplayer ในเกม open-world ถือเป็นความท้าทายใหญ่ หาก CDPR ไม่สามารถจัดการเรื่องซิงค์ข้อมูลและประสิทธิภาพได้ดี อาจเกิดปัญหาบั๊กหรือ server ล่มได้ อีกทั้งแฟนเกมยังคาดหวังสูงหลังจากบทเรียนในช่วงเปิดตัว Cyberpunk 2077 ที่มีบั๊กจำนวนมาก หาก multiplayer ออกมาไม่สมบูรณ์หรือเต็มไปด้วย microtransaction ก็อาจสร้างกระแสลบได้
ผลกระทบในระยะสั้นคือผู้เล่นจะเริ่มคาดหวังและจับตาดูความคืบหน้าของระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้ CDPR ต้องสื่อสารและอัปเดตชัดเจนว่าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ระยะกลาง หากทำได้ดี multiplayer จะกลายเป็นฟีเจอร์ที่ดึงผู้เล่นกลับมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยยืดอายุเกม และสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแรง ส่วนระยะยาว ถ้าประสบความสำเร็จ CDPR อาจใช้โมเดลนี้กับเกมอื่นในอนาคต ทำให้เกมของค่ายมีองค์ประกอบออนไลน์มากขึ้นและแข่งขันกับเกม AAA ที่มีระบบ live service ได้อย่างสูสี
แหล่งข้อมูล gamesradar
Leave a Reply