Advertisement

StarLadder Budapest Major 2025: Power Rankings

StarLadder Budapest Major 2025 Power Rankings

StarLadder Budapest Major 2025 ถือเป็นหนึ่งในอีเวนต์อีสปอร์ตที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดแห่งปี โดยมีทีม Counter-Strike 2 ระดับแนวหน้า 32 ทีม ร่วมชิงเงินรางวัลรวม 1.25 ล้านดอลลาร์ (ราว 43 ล้านบาท) ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ถึง 14 ธ.ค. ณ ประเทศฮังการี โดยทีมต่างๆ จะต้องฝ่าด่าน Swiss Stage ถึง 3 รอบ ก่อนจะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟแบบแพ้คัดออกสุดเข้มข้น

ด้วยจำนวนทีมที่ลงแข่งมากมาย การวัดความแข็งแกร่งของแต่ละทีมอาจเป็นเรื่องยาก เราจึงได้จัดทำ Power Ranking Tier List นี้ขึ้น เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าใครยืนอยู่จุดไหนในขณะที่จุดสูงสุดของการแข่งขัน Counter-Strike กำลังจะเปิดฉากขึ้น

StarLadder Budapest Major 2025: Power Rankings

การจัดอันดับ Power Rankings จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ (Tiers):

  • S-Tier: ทีมระดับหัวกะทิที่มีผลงานยอดเยี่ยมสม่ำเสมอ มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสคว้าแชมป์ Budapest Major ได้จริง
  • A-Tier: ทีมที่มีการแข่งขันสูง มีผู้เล่นฝีมือดีและกลยุทธ์ลึกซึ้ง สามารถท้าชนกับทีม S-Tier ได้ แต่ยังขาดความสม่ำเสมอในการคว้าถ้วยรางวัล
  • B-Tier: ทีมดีที่มีศักยภาพและทักษะ แต่ถูกฉุดรั้งด้วยความไม่สม่ำเสมอ ปัญหาด้านสภาพจิตใจ หรือข้อจำกัดทางแทกติก
  • C-Tier: ทีมที่มีความคิดสร้างสรรค์และพลังยิง (Firepower) วูบวาบ แต่ขาดประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงสุด
  • D-Tier: ทีมระดับล่าง ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ Tier 2 ซึ่งไม่น่าจะไปได้ไกลนักในทัวร์นาเมนต์นี้

S-Tier: Furia vs. Vitality เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์?

เมื่อเทียบกับเมเจอร์อื่นๆ อย่าง Shanghai 2024 กลุ่ม S-Tier ของ Budapest นั้นเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีเหตุผลที่ดี ช่วงครึ่งปีแรกของ 2025 นั้นถูกครอบงำโดย Vitality อย่างสมบูรณ์ แต่ในขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังดูเหมือนจะเปิดกว้างโดยมีหลายทีมแย่งชิงอันดับหนึ่ง Furia กลับผงาดขึ้นมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเริ่มเมเจอร์

สำหรับลูกทีมของ Dan “apEX” Madesclaire เมเจอร์นี้คือโอกาสที่จะเติมถ้วยรางวัลใบสุดท้ายลงในชั้นวางที่เต็มเอี๊ยดของปี 2025 แต่การที่พวกเขาอยู่ใน S-Tier นั้นมาจากชื่อชั้นมากกว่าผลงานล่าสุด พลังยิงของพวกเขายังคงอันตราย และถ้านักแข่งฟอร์มเข้าฝัก Vitality ก็ยังคงเป็นทีมที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Counter-Strike

อย่างไรก็ตาม Furia ได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจก่อนเมเจอร์ การผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็วของ Danil “molodoy” Golubenko ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น AWPer ที่เก่งที่สุดในเกมตอนนี้ ผสานกับการยิงที่แม่นยำสม่ำเสมอของ Kaike “KSCERATO” Cerato ทำให้ผู้เล่นอย่าง Mareks “YEKINDAR” Gaļinskis และ Yuri “yuurih” Boian กลับมาคืนฟอร์มเก่ง เครื่องจักรสังหารนี้ทำงานได้อย่างลื่นไหลภายใต้การนำทัพของ Fallen สิ่งที่น่ากังวลเพียงอย่างเดียวสำหรับ Furia คือการขาดประสบการณ์ในระดับเมเจอร์ แต่ฟอร์มและความมั่นใจในปัจจุบันทำให้พวกเขานั่งแท่นจ่าฝูงได้อย่างสบายๆ

A-Tier: ทีมหน้าเดิมที่มีลุ้นแชมป์

A-Tier ประกอบด้วยทีมที่ทำผลงานเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี เริ่มต้นด้วยสามประสานที่นำโดยพลังยิงอย่าง Falcons, Spirit และ Aurora ทางด้าน Falcons ได้รวบรวม Superteam ตามที่ต้องการ แต่กลับกลายเป็นดาบสองคมเมื่อพลังยิงนั้นมักจะทรยศพวกเขา โดยมีเพียง Ilya “m0NESY” Osipov เท่านั้นที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกับ G2 ในอดีต Falcons ฝากชะตากรรมไว้ที่ความแม่นยำล้วนๆ

Spirit ดูเหมือนจะพร้อมรับช่วงต่อจาก Vitality ด้วยการชนะในรายการ IEM Cologne ตั้งแต่การเปิดตัวของ Ivan “zweih” Gogin แต่การเสริมทัพ Andrey “tN1R” Tatarinovich ดูจะเป็นก้าวที่เกินตัว Spirit ดูเหมือนจะหลงทางแม้จะมีพลังที่หยุดไม่อยู่อย่าง donk ก็ตาม

Aurora เลือกเวลาพีคได้เหมาะเจาะก่อนเข้าสู่ StarLadder Budapest Major 2025 ชัยชนะที่ PGL Masters Bucharest ผนวกกับคู่หูสุดแกร่งอย่าง Ismailcan ‘XANTARES’ Dörtkardeş และ Ali “Wicadia” Haydar Yalçın ทำให้พวกเขามีภาษีดีพอที่จะลุ้นถ้วย

ปิดท้ายระดับนี้ด้วย G2, MOUZ และ TheMongolZ ทีมเหล่านี้มีดาราประจำทีมที่แข็งแกร่งและแทกติกที่ดี แต่ยังขาดจิ๊กซอว์บางชิ้น สำหรับ MOUZ และ G2 เหล่าสตาร์ที่ผันตัวมาเป็น IGL ยังต้องพิสูจน์ตัวเองในระดับแชมป์ ส่วนทางฝั่งเอเชีย การดรอป Azbayar “Senzu” Munkhbold เป็นเรื่องช็อกและพวกเขายังหาคนแทนที่แท้จริงไม่ได้ ทุกทีมในกลุ่มนี้ควรตั้งเป้าที่รอบเพลย์ออฟ แต่การคว้าแชมป์อาจจะไกลเกินเอื้อม

B-Tier: เราจะได้เห็นม้ามืดกี่ทีมใน Budapest Major 2025?

ในเมื่อประตูสู่รอบเพลย์ออฟดูจะปิดตาย (อย่างน้อยก็ในหน้ากระดาษ) ทีมในระดับ B-Tier จะต้องพยายามฝ่าเข้าไปให้ได้ นำโดย paiN ทีมบราซิลที่นำโดย Rodrigo “biguzera” Bittencourt แต่ผลงานรองแชมป์ที่ Austin Major นั้นดูดีเกินจริงเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่พวกเขาเอาชนะมาได้อย่าง Furia ที่ตอนนั้นยังตั้งหลักไม่ได้

NaVi ดูจะอยู่ในสถานการณ์วิกฤตแม้จะเคยคว้าแชมป์เมเจอร์ในปี 2024 ยักษ์ใหญ่จากยูเครนกำลังอยู่ในช่วงขาลงที่น่ากังวล การจากไปของ Justinas “jL” Lekavičius (MVP เมเจอร์) ทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่ Drin “makazze” Shaqiri ยังเติมไม่เต็ม แม้ Valerii “b1t” Vakhovskyi จะยังฉายแสง แต่ทีมขาดความสามัคคี นี่ดูไม่ใช่แค่ฟอร์มตกชั่วคราวแต่เป็นวงจรขาลงที่เสี่ยงจะพังทลายหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

Liquid คือความหวังสูงสุดของอเมริกาเหนือ ด้วยส่วนผสมของเก๋าและสด พวกเขามีพลังยิงที่จะท้าชนกับใครก็ได้ในวันที่ฟอร์มมา แต่คำถามคือความสม่ำเสมอตลอดทัวร์นาเมนต์ ขณะที่ 3DMAX เป็นม้ามืดแห่งปี 2025 ที่ทำผลงานเกินตัวด้วยการแก้เกมที่ชาญฉลาด

Astralis และ FaZe ต่างแบกรับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แต่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเรื่องฟอร์มปัจจุบัน Astralis ตำนานเดนมาร์กกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วน FaZe ยังคงตามหาเกียรติยศใน CS2 Major แต่ความไม่นิ่งของตัวผู้เล่นทำให้พวกเขาเปราะบาง ปิดท้ายด้วย Legacy และ GamerLegion ที่เป็นม้ามืดที่อาจสร้างความปวดหัวในรอบ Swiss Stage

C-Tier: พลังหนุ่ม, ศักยภาพแฝง และตัวแทนภูมิภาค

C-Tier คือจุดที่ศักยภาพมาบรรจบกับความจริง ทีมเหล่านี้มีความวูบวาบและกลยุทธ์สร้างสรรค์ แต่ยังต้องเรียนรู้การแข่งขันระดับเมเจอร์ นำโดย B8 ที่ลงตัวหลังจากเปลี่ยน IGL สไตล์การสั่งการของ Oleksii “alex666” Yarmoshchuk ช่วยปลดล็อกฟอร์มโหดของ Andrii “npl” Kukharskyi ทำให้พวกเขาเป็นม้ามืดที่น่าจับตามอง

การใส่ Fnatic ไว้ตรงนี้อาจดูโหดร้าย แต่ Benjamin “blameF” Bremer และ Dmytro “jambo” Semera แบกทีมได้แค่นั้น Fnatic ชุดนี้กำลังสร้างทีมใหม่และขาดความลึกพอที่จะขู่ทีมระดับ Elite ได้ต่อเนื่อง

NIP พลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง จากที่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในปีนี้ พวกเขาไต่เต้าขึ้นมาจนได้รองแชมป์ StarLadder Fall 2025 ความเป็นผู้นำของ Marco “Snappi” Pfeiffer คู่กับฝีมือของ Kacper “xKacpersky” Gabara กู้ศรัทธากลับมาได้ PARIVISION ก็เข้ามาในฐานะน้องใหม่เมเจอร์ที่มีเมคานิคการเล่นระดับเทพ

M80 จะเป็นตัวแทนของอเมริกาเหนือหลังจาก NRG ประสบปัญหา Passion UA เล่นด้วยใจและความดุดันแต่ขาดประสบการณ์ในการปิดเกม Tyloo ยังคงไต่ระดับด้วยสไตล์เอเชียที่ดุดันแต่ผลงานระดับโลกยังไม่ยั่งยืน GL ปิดท้ายกลุ่มนี้ด้วยผลงานที่นำโดย ztr แต่ยังมีจุดอ่อนเรื่อง AWP ตั้งแต่ acoR จากไป

D-Tier: มวยรองและตัวแทนระดับภูมิภาค

ทุกเมเจอร์ต้องการตำนานซินเดอเรลล่า และทีม D-Tier หวังจะเขียนตำนานนั้นที่บูดาเปสต์ แม้รอบเพลย์ออฟจะดูไกลเกินฝัน แต่พวกเขาได้สิทธิ์มาจากการครองภูมิภาคของตนเอง ทีมจากบราซิลอย่าง MIBR, Imperial, Fluxo และ RED Canids ล้วนเจอศึกหนัก Imperial ภายใต้การนำของ Vinicius “VINI” Figueiredo ปรับโฉมใหม่แต่ปี 2025 กลายเป็นโชว์ของ Santino “try” Rigal ถ้า Marcelo “chelo” Cespedes เครื่องติด พวกเขาก็อาจขโมยแต้มในเกม Best-of-one ได้

FlyQuest คือความหวังใหม่ของโอเชียเนีย แม้จะมีนักวิเคราะห์บอกว่านี่คือทีมออสเตรเลียที่มีทักษะสูงสุด (เหนือกว่าชุด Renegades ในตำนาน) แต่การเสริมทัพ Justin “jks” Savage ก็ยังไม่สร้างอิมแพ็คพอที่จะแข่งขันในระดับนี้ Lynn Vision นำสไตล์เอเชียคลาสสิกมาสู้ แต่การครองเกมออนไลน์ต้องเปลี่ยนเป็นความสมบูรณ์แบบทางเมคานิคเพื่อจะไปรอดในระดับสากล

The Huns และ Rare Atom ปิดท้ายตารางในฐานะมวยรองบ่อนที่สุด The Huns สร้างการแข่งขันในเอเชียด้วยสไตล์ที่รวดเร็วขึ้นแต่ยังไม่เห็นผล พวกเขาจะต้องสู้กับ Rare Atom เพื่อหนีจากการตกรอบแบบ 0-3 สำหรับทีมเหล่านี้ การได้มาถึงบูดาเปสต์ถือเป็นความสำเร็จแล้ว และการเป็นตัวแทนภูมิภาคอย่างภาคภูมิใจนั้นสำคัญกว่าสถิติแพ้ชนะ

แหล่งข้อมูล dotesports

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *