แจกฟรี! Fear the Spotlight เกมสยองขวัญบรรยากาศโรงเรียนกลางคืน -Epic Games Store ถึง 30 ต.ค. นี้

Fear the Spotlight คือเกมแนว Horror Adventure สไตล์ภาพยุค 90s ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมแนวสยองขวัญบนเครื่อง PS1 เช่น Silent Hill และ Clock Tower แต่ถูกออกแบบให้เข้าถึงง่าย เหมาะกับผู้เล่นยุคใหม่ที่อยากสัมผัสบรรยากาศขนหัวลุกในมุมมอง Third-Person

เรื่องราวเล่าผ่านมุมมองของ Vivian นักเรียนสาวที่แอบเข้าโรงเรียน Sunnyside High School ในตอนกลางคืนกับเพื่อนสนิท Amy เพื่อทำพิธีเรียกวิญญาณ (séance) ทว่าเหตุการณ์กลับกลายเป็นฝันร้ายเมื่อ Amy หายตัวไปท่ามกลางเสียงกระซิบจากเงามืด และ Vivian ต้องเอาชีวิตรอดในโรงเรียนร้างที่เต็มไปด้วยบางสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่จริง…

เกมนี้จะพาผู้เล่นเดินสำรวจในมุมกล้องแบบ “ข้ามไหล่” (Over-Shoulder) คล้ายเกม Resident Evil ยุคคลาสสิก ผสมกลิ่นอายความลึกลับจากซีรีส์ Goosebumps และภาพยนตร์สยองขวัญยุค 90s โดยผู้เล่นจะต้อง

ใช้ไฟฉายส่องทางในโรงเรียนมืดสนิท
แก้ปริศนา (puzzles) เพื่อปลดล็อกห้องเรียน และค้นหาความจริง
หลบซ่อนจากภัยลึกลับที่ตามล่าอยู่ในเงามืด

แม้จะไม่มีการต่อสู้โดยตรง แต่เกมเน้น “ความรู้สึกเปราะบาง” ของการเป็นเด็กสาวที่ติดอยู่ในสถานที่อันตราย พร้อมเสียงเอฟเฟกต์ที่ค่อย ๆ ไล่เข้ามาใกล้ ทำให้ Fear the Spotlight กลายเป็นประสบการณ์สยองที่ทั้งอบอุ่น ทั้งน่ากลัว และเต็มไปด้วยความคิดถึง

วิธีรับฟรี

เข้าไปที่หน้าเกมบน Epic Games Store ช่วงวันที่ 23 – 30 ตุลาคม 2025
คลิก “รับฟรี” หรือ “Claim” เพื่อเพิ่มไปยังบัญชีของคุณ
เกมจะถูกเพิ่มลงคลังของคุณเป็นถาวร หลังจากกดรับก่อนหมดเขต
กด “รับ (Claim)” เพื่อเพิ่มเกมเข้าคลังของคุณ
ดาวน์โหลดและเล่นได้ตลอดไป — เกมนี้จะเป็นของคุณถาวร

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่น Fear the Spotlight

1. ไม่ใช่เกมสยองขวัญที่เน้น Jump Scare
ถึงจะเป็นเกมหลอน แต่ Fear the Spotlight ไม่ได้ใช้เสียงดังหรือภาพโผล่ใส่หน้าผู้เล่นแบบเกมสยองทั่วไป เกมนี้เน้น “ความเงียบ ความมืด และความรู้สึกโดดเดี่ยว” มากกว่า ทำให้ความกลัวค่อย ๆ ก่อตัวแบบช้าแต่แน่น

2. ไม่มีระบบต่อสู้ ต้องใช้การหลบซ่อนแทน
Vivian ไม่มีอาวุธในมือ ผู้เล่นต้องพึ่งการหลบ การแอบ และการใช้สิ่งของในฉากเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย การอยู่เงียบ ๆ บางครั้งคือทางรอดที่ดีที่สุด

3. เกมเน้นเนื้อเรื่องและบรรยากาศ
Fear the Spotlight ใช้เวลาเล่นเพียง 4–6 ชั่วโมง แต่เต็มไปด้วยเนื้อเรื่องที่เล่าผ่านเสียงสะท้อน ความทรงจำ และเอกสารต่าง ๆ ในโรงเรียนที่ถูกทิ้งร้าง เหมาะกับคนที่ชอบ “เกมเล่าเรื่องหลอนแบบช้า ๆ แต่มีความหมาย”

4. ภาพและเสียงสไตล์ยุค 90s ตั้งใจทำให้ดูเก่า
อย่าแปลกใจถ้าเห็นภาพแตกหรือมีเม็ด Noise เหมือนดูวิดีโอเทป — เพราะนั่นคือความตั้งใจของผู้พัฒนา ที่อยากให้เกมดูเหมือนหนัง VHS ยุคเก่าแบบ Goosebumps + Silent Hill

5. ไม่เหมาะกับคนขี้ตกใจหรือแพ้ความมืด
เกมใช้แสงน้อยมากและมีเสียงที่ทำให้เครียด ถ้าคุณเป็นคนกลัวความมืดหรือไม่ชอบความอึดอัด อาจต้องทำใจไว้ก่อน

6. เกมอินดี้ขนาดเล็ก แต่คุณภาพระดับมืออาชีพ
แม้จะเป็นทีมเล็ก (Cozy Game Pals) แต่การเล่าเรื่องและดีไซน์ฉากของ Fear the Spotlight ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์หลายสำนักว่า “อบอุ่นและสยองในเวลาเดียวกัน”