สรุป Patch Notes Call of Duty Black Ops 7 (21 พ.ย.): บัฟ Aim Assist, เนิร์ฟ Drone Pod และปรับสมดุล SMG ยกแผง

อัปเดตนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือการ บัฟระบบช่วยเล็ง (Aim Assist), เนิร์ฟ Drone Pod, บัฟปืน SMG และการปรับสมดุลอื่นๆ ในโหมด Multiplayer และ Zombies

บัฟระบบช่วยเล็ง (Aim Assist)

ลดบทลงโทษของระบบช่วยเล็งแบบหมุนตาม (Rotational Aim Assist) ขั้นต่ำจาก 35% เหลือ 25% ซึ่งช่วยให้การช่วยเล็งในระยะไกลมีประสิทธิภาพขึ้นโดยไม่โกงจนเกินไป
ปรับระบบให้มีความละเอียดขึ้น โดยความแรงของการช่วยเล็งจะแปรผัน ผู้เล่นต้องขยับแกนขวา (Right Stick) เพื่อติดตามเป้าหมายให้ต่อเนื่องจึงจะได้ผลลัพธ์เต็มที่ (เน้นให้การเล็งของผู้เล่นจอยสมูทขึ้น)

เนิร์ฟ Drone Pod

เวลาชาร์จ: เพิ่มขึ้นเป็น 3 นาที (จากเดิม 2.5 นาที) ทำให้ใช้ได้บ่อยน้อยลง
ระยะเวลาใช้งาน: ลดลงเหลือ 8 วินาที (จากเดิม 10 วินาที)
ดาเมจ: ลดลงเหลือ 50 ต่อตัว (จากเดิม 60)

บัฟปืนกลมือ (SMG)

ภาพรวม: เพิ่มระยะดาเมจสุดท้าย (Final Damage Range) ให้ทุกกระบอก และเพิ่มประสิทธิภาพระยะดาเมจของอุปกรณ์แต่งปืน เพื่อให้สู้ในระยะกลางได้ดีขึ้น
อาการสะดุ้ง (Flinch): ลดลงจาก 0.17N เหลือ 0.12N
แรงดีด: ปรับปรุงแรงดีดพื้นฐานของบางกระบอก รวมถึงบัฟอุปกรณ์แต่งปืน (ลำกล้อง, กริป, เลเซอร์) ให้คุมแรงดีดแนวตั้ง/แนวนอนได้ดีขึ้น

ตัวอย่าง:
- Ryden 45K และ RK-9: เล็งผ่านศูนย์ (ADS) ไวขึ้น และคุมแรงดีดได้ดีขึ้น
- Razor 9mm และ Dravec 45: ได้อานิสงส์จากการเพิ่มระยะดาเมจของอุปกรณ์แต่งปืน
ข้อแลกเปลี่ยน: มีการลดความเร็วการเคลื่อนที่และความเร็ว ADS ลงเล็กน้อย เพื่อสมดุลกับดาเมจที่เพิ่มขึ้น

การปรับเปลี่ยนปืนไรเฟิลจู่โจม (Assault Rifle)

M15 MOD 0: ลดดาเมจลงเล็กน้อยในทุกระยะ แต่เพิ่มระยะดาเมจสูงสุด อย่างไรก็ตาม มีการเนิร์ฟความคล่องตัว (เวลา Sprint-to-fire ช้าลง, เคลื่อนที่ช้าลง, แรงดีดนัดแรกสูงขึ้น)
AK-27: ปรับให้เน้นเอกลักษณ์ “แรงดีดสูง ควบคุมยาก” เพิ่มดาเมจลดลง (Damage Falloff) ในระยะไกล เพื่อไม่ให้เก่งทับซ้อนกับปืน Marksman หรือ Sniper

MXR-17: เพิ่มเวลา Slide-to-fire (ยิงหลังสไลด์ช้าลง) และลดความเร็ว ADS ลงเล็กน้อย
X9 Maverick: ลดดาเมจระยะใกล้ แต่ระยะกลางและไกลยังคงเดิม เพิ่มเวลา Sprint-to-fire และ Slide-to-fire เล็กน้อย

การปรับเปลี่ยนปืน Marksman Rifle

Warden 308 & M34 Novaline: ยังคงดาเมจที่รุนแรงไว้ แต่ลดความคล่องตัวลง (ADS ช้าลง, วิ่งช้าลง, สะดุ้งแรงขึ้น)
Warden: ยิงท่อนแขนบนไม่ตายในนัดเดียวแล้ว (One-shot) แต่ยิงหน้าอกบนยังตายในนัดเดียว

การปรับเปลี่ยนปืน LMG

MK7.8: เล็ง (ADS) ไวขึ้นเล็กน้อย
MFS Heatshield Belt Fed: ปรับให้จัดการความร้อนได้ดีขึ้น (ยิงต่อเนื่องได้นานขึ้น) แต่ถ้าปืน Overheat จะโดนลงโทษหนักกว่าเดิม
XM325: เล็ง (ADS) ไวขึ้นเล็กน้อย

การปรับเปลี่ยนปืนพก (Pistol)

Jager 45 (Prestige Barrel): ลดอัตราการยิง แต่เพิ่มดาเมจพื้นฐานและระยะยิงอย่างมาก (ลดตัวคูณดาเมจเฮดช็อตลงเพื่อสมดุล)
Velox 5.7: ลดความเก่งลง โดยต้องยิงเข้าหัวอย่างน้อย 1 นัดในการดวลระยะใกล้จึงจะชนะ

อัปเดตโหมด Multiplayer

Minimap: ขยายพื้นที่การมองเห็นในมินิแมพเพิ่มอีก 10%
Scorestreak:
- Hand Cannon (Akimbo Overclock): เพิ่มกระสุนเป็น 7 นัดต่อกระบอก (จาก 5) และลดการกระจายกระสุนเมื่อยิงแบบ Hipfire ลง 44%
- Hand Cannon (Extended Mag): ลดกระสุนเหลือ 10 นัด (จาก 12)
- LDBR: เพิ่มจำนวนมิสไซล์เป็น 13 ลูก (จาก 9)
Spawn: ปรับจุดเกิดในโหมด Free-for-all เพื่อลดปัญหาระบบเกิดแย่ๆ
Challenges: ภารกิจ “ฆ่าศัตรูที่ติดสถานะจาก Tactical” นับรวมผลจาก Scorestreak ที่ไม่ทำให้ถึงตายด้วย

การเปลี่ยนแปลงโหมด Zombies

แผนที่ Ashes of the Damned:
- บอสไฟต์ง่ายขึ้น: Hoard Husk รีเจนเลือดไวขึ้นและให้เลือดเยอะขึ้น (ตามต้นฉบับใช้คำว่า giving more health overall อาจหมายถึงดรอปเลือด หรือมีเลือดเยอะขึ้นเพื่อให้เรายิงเก็บแต้ม/ของ อันนี้ต้องดูบริบทในเกม)
- มิสไซล์ถูกลดความเก่ง
- การขัดจังหวะท่า Beam Attack จะไม่ลดคูลดาวน์ท่านั้นก่อนรอบที่ 100 อีกต่อไป
บั๊ก: แก้ไขบั๊ก HUD หาย และบอสเกิดมาไม่มีหลอดเลือด
ความท้าทาย: ลายพราง (Camo) ของ DS20 Mirage ยากขึ้นมาก -> ต้องฆ่าด้วยกระสุน Dead Wire 300 ตัว (จากเดิมแค่ 5 ตัว)