

การรอคอยกว่า 7 ปีสิ้นสุดลง
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2019 แฟน ๆ ทั่วโลกก็เฝ้ารอ Hollow Knight: Silksong อย่างใจจดใจจ่อ และในที่สุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2025 ทีมพัฒนา Team Cherry ก็ได้ปล่อยเกมออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ได้แก่ PC (Steam), Xbox Series X|S, PlayStation 5, Nintendo Switch และ Switch 2 โดยยังมีให้เล่นผ่านบริการ Xbox Game Pass อีกด้วย
นี่คือภาคต่อของ Hollow Knight เกมอินดี้แนว Metroidvania ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และครั้งนี้ผู้เล่นจะได้สวมบท Hornet ตัวละครนักรบหญิงที่หลายคนคุ้นเคยจากภาคแรก
วันเปิดตัวที่กลายเป็น “ปรากฏการณ์”
ทันทีที่วางจำหน่าย Silksong ได้รับความสนใจอย่างถล่มทลาย ยอดผู้เล่นพร้อมกันบน Steam พุ่งสูงกว่า 500,000 คน ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และทำให้เกมติดอันดับหนึ่งของ Steam Charts พร้อมรีวิวในระดับ “Overwhelmingly Positive” จากผู้เล่นนับหมื่น
ความนิยมสูงเกินคาดนี้ยังทำให้ Steam, Nintendo eShop และ PlayStation Store ต้องเผชิญกับปัญหา เซิร์ฟเวอร์ล่มชั่วคราว เพราะผู้เล่นทั่วโลกแห่กันดาวน์โหลดพร้อมกันจนระบบรองรับไม่ไหว
บนฝั่ง Nintendo Switch และ Switch 2 เกมก็ทะยานขึ้นเป็น อันดับหนึ่งใน eShop ภายในวันแรก ขณะที่ Xbox Game Pass ก็รายงานว่ามีการดาวน์โหลดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเกมอินดี้
ทำไม Silksong ถึง “แรง” ขนาดนี้?
สาเหตุหลักที่ทำให้ Silksong ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มาจากการผสมผสานหลายปัจจัย:
- การรอคอยยาวนาน: แฟน ๆ เฝ้ารอภาคต่อกว่า 7 ปี
- ฐานแฟนภาคแรก: Hollow Knight ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเกมอินดี้ Metroidvania ที่ดีที่สุดในทศวรรษ
- ระบบการเล่นใหม่: ผู้เล่นสวมบท Hornet ที่มีทักษะการต่อสู้คล่องแคล่ว รวดเร็ว และมีกลไกใหม่ ๆ แตกต่างจาก Knight
- เสียงวิจารณ์เชิงบวก: สื่อเกมหลายเจ้าชื่นชมว่าเกมมีความท้าทายมากขึ้นและยกระดับมาตรฐานใหม่ของแนว Metroidvania
เสียงวิจารณ์จากสื่อและผู้เล่น
- GamesRadar ชี้ว่าเกมมีความยากมากขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถันของทีมพัฒนา
- TheGamer บอกว่า Silksong เป็นเกมที่ “เคารพผู้เล่น” ด้วยการออกแบบที่ท้าทายแต่ยุติธรรม
- CGMagazine ให้คะแนนเต็ม 10/10 พร้อมยกให้เป็น “มาตรฐานใหม่ของเกม Metroidvania”
- ผู้เล่นทั่วไปต่างยกนิ้วให้กับงานศิลป์ เพลงประกอบ และบรรยากาศที่สืบทอดเอกลักษณ์จากภาคแรก
ชุมชนเกมเริ่มคึกคัก: Mod และ Speedrun
หลังเปิดตัวเพียงไม่กี่วัน ชุมชนผู้เล่นก็เริ่มปล่อย Mod เสริมความสะดวก เช่น compass ติดตามอัตโนมัติ และมีการจัดแข่ง speedrun กันอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า Silksong จะมีชีวิตชีวาในวงการเกมไปอีกนาน
บทสรุป
การเปิดตัวของ Hollow Knight: Silksong ไม่ได้เป็นเพียงแค่การวางจำหน่ายเกมภาคต่อ แต่กลายเป็น เหตุการณ์สำคัญในวงการเกมอินดี้ ที่สะท้อนถึงพลังของแฟน ๆ ที่รอคอยมายาวนาน ด้วยยอดผู้เล่นถล่มทลาย รีวิวระดับสูง และการสร้างสรรค์ที่ยกระดับมาตรฐานใหม่
นี่คือหนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2025 และน่าจะยังคงเป็นกระแสต่อเนื่องไปอีกหลายปี
Leave a Reply