คู่มือ LoL บน Mac (อัปเดต ต.ค. 2025)

1) เช็คให้พร้อมก่อนติดตั้ง

สเปกขั้นต่ำ/แนะนำ (Mac) ตามหน้า Support ของ Riot (รองรับเฉพาะ Mac สถาปัตยกรรม x86 อย่างเป็นทางการ)
- ขั้นต่ำ: macOS 10.13.6, CPU Intel Core i5-750, RAM 2GB, GPU AMD HD 6570 / Intel HD 4600, พื้นที่ว่าง 12GB (HDD), ความละเอียดแนะนำ 1024×768
- แนะนำ: macOS 11, CPU Intel Core i5-3300, RAM 4GB, GPU Radeon HD 6950 / Intel UHD 630, พื้นที่ว่าง 16GB (SSD), ความละเอียด 1920×1080
- Riot ระบุชัดว่า รองรับเฉพาะ x86 Macs และในเอกสารฉบับปัจจุบัน ยังไม่รองรับ macOS 12–13 อย่างเป็นทางการ (กรุณาเช็คหน้า Support อีกครั้งเผื่อมีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด)
Apple Silicon (M1/M2/M3/M4): เล่นได้ “โดยทั่วไป” ผ่าน Rosetta 2 (แปลคำสั่ง x86 → ARM) แต่ ไม่ถือเป็นการรองรับอย่างเป็นทางการ ของ Riot ในสเปกชีต—หากระบบถามให้ติดตั้ง Rosetta ระหว่างเปิดแอปครั้งแรก ให้กดยืนยันติดตั้งเพื่อใช้งานได้ตามปกติ. (สถานะการทำงานผ่าน Rosetta ดูสรุปได้ที่ DoesItARM)

หมายเหตุ: ช่วงที่ผ่านมา บางเครื่องเห็น “ข้อความเตือน Metal/OpenGL” ทั้งที่สเปกถึง—Dot Esports ระบุว่าเป็นกรณีแจ้งเตือนผิดพลาดในบางรุ่น ให้ยึดตามสเปกบนหน้า Support เป็นหลักครับ

2) ดาวน์โหลดและติดตั้ง (แบบเป็นขั้นตอน)

ไปที่หน้า Download LoL แล้วกด Download Mac Installer League of Legends
ดับเบิลคลิกไฟล์ .dmg ที่โหลดมา แล้ว ลาก Riot Client ไปไว้ในโฟลเดอร์ Applications (แนะนำให้รันจาก Applications เสมอ)
เปิด Riot Client → ล็อกอิน/สร้างบัญชี Riot (ระบบจะจับ Region ตามบัญชี) → เลือก League of Legends แล้วกด Install
ระหว่างติดตั้ง/อัปเดตแพตช์:
- ถ้าเป็น Apple Silicon และขึ้นหน้าต่างให้ติดตั้ง Rosetta → กดยืนยัน
- macOS อาจถามสิทธิ์เน็ตเวิร์ก/ไฟร์วอลล์ ให้กด Allow เพื่อให้แพตช์/เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ได้
ติดตั้งเสร็จแล้ว กด Play ได้ทันที (ครั้งแรกอาจใช้เวลาตรวจไฟล์/ดาวน์โหลดทรัพยากรเพิ่มเล็กน้อย)

กรณี macOS บล็อกไฟล์ติดตั้ง (Gatekeeper)
ไปที่ Apple menu > System Settings > Privacy & Security แล้วกด Open Anyway เพื่ออนุญาตแอปจากนักพัฒนาที่ไม่ระบุตัวตน (ใช้ได้ชั่วคราวหลังเปิดไฟล์ครั้งแรก)

3) ตั้งค่าพื้นฐานในเกม (ให้เล่นลื่นบน Mac)

เข้า Settings > Video
- ปรับ Display Mode: Windowed/Borderless (สลับดูว่าเครื่องคุณลื่นสุดแบบไหน)
- ปิด Frame Rate Cap หรือกำหนดคงที่ (เช่น 120/144) ตามจอ
- ลด Shadow/Anti-Aliasing/Effects ถ้าเฟรมเรตไม่นิ่ง
เข้า Settings > Sound ปิดเสียง/ย่อระดับที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระระบบเล็กน้อย
ปิดแอปเบื้องหลัง (Chrome แท็บเยอะ ๆ, สตรีม/แคปหน้าจอ) ก่อนเล่น จะช่วยให้เฟรมเรตเสถียรขึ้น

4) เลือกเซิร์ฟเวอร์/ภูมิภาคให้ถูกต้อง

Region ของ LoL ผูกกับ Riot Account—อยากเล่นอีกภูมิภาค ให้ ใช้บัญชีของภูมิภาคนั้น หรือใช้เมนู Region Transfer (เสีย RP) ในร้านค้าในไคลเอนต์ (สิทธิ์/ตัวเลือกขึ้นกับนโยบายปัจจุบันของ Riot)
ถ้า Region of Residence ของบัญชีผิด (ย้ายประเทศ/สมัครพลาด) ให้ดูขั้นตอนตรวจสอบสิทธิ์ย้าย Region กับ Riot Support ได้ที่ลิงก์นี้ Valorant Support

5) แก้ปัญหายอดฮิต (Mac)

เปิดไฟล์ติดตั้งไม่ได้: “App can’t be opened…”
ไปที่ System Settings > Privacy & Security และกด Open Anyway (หรือคลิกขวาไฟล์แล้ว Open ครั้งแรก)
ขึ้นเตือน Metal/OpenGL บน Mac รุ่นที่ควรเล่นได้
ตรวจสเปกเทียบหน้า Support (ด้านบน) แล้วลองรีสตาร์ต/อัปเดต macOS-ไดรเวอร์กราฟิก (หากเป็นรุ่น Intel) ตามความเหมาะสม—Dot Esports ระบุว่าเป็นเคสแจ้งเตือนผิดในบางเครื่อง
เข้าเกมแล้วเด้ง/ติดจอดำ/ขึ้น “couldn’t initialize graphics device”
อัปเดตกราฟิก/ระบบปฏิบัติการ, อนุญาตไฟร์วอลล์/แอนติไวรัส, และลอง “รีเซ็ตคอนฟิกให้อยู่ขั้นต่ำ (MinConfig)” หรือรีอินสตอลตามขั้นตอน “Fix My League” ของ Riot
ถอนติดตั้ง/ลงใหม่ (Mac)
ลาก League of Legends ออกจาก Applications → ลบโฟลเดอร์ /Users/Shared/Riot Games → เทขยะ → ดาวน์โหลดใหม่จากหน้า Download

6) ทางลัดแบบ “มือใหม่มาก ๆ”

ถ้าไม่อยากอ่านยาว ทำตาม 4 บรรทัดนี้พอ:

ไปหน้า Play League of Legends Now แล้วกด Download Mac Installer League of Legends
เปิดไฟล์ .dmg → ลาก Riot Client ไปไว้ Applications
เปิด Riot Client → ล็อกอิน/สมัคร → เลือก League of Legends → Install
ถ้า macOS บล็อก ให้ไป Privacy & Security > Open Anyway แล้วเปิดใหม่