ในการให้สัมภาษณ์กับ GamesRadar+ Brandon Adler ผู้อำนวยการเกม The Outer Worlds 2 เปิดเผยว่าผู้เล่นในปัจจุบันต้องการเกม RPG ที่ “เข้มข้นกว่าเดิม” ทั้งในแง่ระบบการเล่น เนื้อเรื่อง และผลลัพธ์จากการตัดสินใจของผู้เล่น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทีมพัฒนาหันกลับไปศึกษาผลงานเก่า ๆ ของ Obsidian Entertainment เพื่อดึงจิตวิญญาณของ RPG แบบคลาสสิกกลับมาอีกครั้ง

Adler ยอมรับว่าในภาคแรก ทีมอาจเน้นความ “ลื่นไหล” มากเกินไป จนทำให้ระบบบางอย่างที่เคยมีความซับซ้อนถูกลดทอนลง เขาตั้งคำถามกับทีมว่า
“เราจะนำสิ่งที่ผู้เล่นชอบใน RPG แบบเก่าที่เข้มข้นและมีทางเลือกหลากหลาย กลับมาให้โดดเด่นได้อย่างไร?”
Obsidian ย้อนกลับไปดูรากเดิมของตัวเอง
Adler ระบุว่าทีมได้ย้อนกลับไปดูผลงานเก่า ๆ ของ Obsidian อย่าง Fallout: New Vegas, Pillars of Eternity และ Knights of the Old Republic 2 เพื่อหาว่า “เสน่ห์ของ RPG แบบนั้นคืออะไร” และจะปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบันอย่างไรโดยไม่ทำให้ผู้เล่นใหม่รู้สึกยุ่งยากเกินไป
หนึ่งในสิ่งที่ทีมเน้นคือการให้ผู้เล่นสามารถ “สร้างตัวละครในแบบของตนเอง” ได้จริง ผ่าน build ที่แตกต่าง, บทสนทนาหลากหลาย, และผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงตามการตัดสินใจ ซึ่ง Adler มองว่านี่คือหัวใจของเกม RPG ที่แท้จริง
“สิ่งสำคัญคือการให้ผู้เล่นรู้สึกว่าทุกการตัดสินใจของเขามีความหมาย”
เขากล่าวเสริม “ไม่ใช่แค่เดินตามเนื้อเรื่อง แต่ได้ ‘กำหนด’ เรื่องราวของตัวเองจริง ๆ”
แนวทางใหม่ที่ยังรักษาเอกลักษณ์
แม้ The Outer Worlds 2 จะพัฒนาให้เข้ากับเทคโนโลยีและกราฟิกยุคใหม่ แต่ Adler ยืนยันว่า “แก่นของเกม” ยังคงอยู่ที่เสรีภาพและความเข้มข้นของระบบ RPG ที่ Obsidian เชี่ยวชาญ
ทีมตั้งเป้าว่าจะให้ผู้เล่นรู้สึกว่า “นี่คือการกลับบ้านของแฟน RPG ตัวจริง” แต่ก็ยังเข้าถึงง่ายสำหรับผู้เล่นรุ่นใหม่
Adler ทิ้งท้ายว่า The Outer Worlds 2 จะเป็นเหมือน “จดหมายรักถึงยุคทองของเกม RPG” แต่เล่าในสไตล์ทันสมัยมากขึ้น
แหล่งข้อมูล gamesradar
Leave a Reply