AMD เงียบ ๆ เปิดตัวซีพียู Ryzen PRO 9000 สำหรับตลาดองค์กร (OEM) ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากสถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” เหมือนกับ Ryzen 9000 ปกติ แต่มีการลดสเปกในบางจุด แลกกับการเพิ่มความสามารถด้านการจัดการในองค์กรและความปลอดภัยที่มากขึ้น
ในซีรีส์นี้มี 3 รุ่นหลัก:
- Ryzen 5 PRO 9645: 6 คอร์ / 12 เธรด, ความเร็วพื้นฐาน 3.9 GHz, บูสต์ได้สูงสุด 5.4 GHz
- Ryzen 7 PRO 9745: 8 คอร์ / 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, boost ถึง 5.4 GHz
- Ryzen 9 PRO 9945: ตัวท็อปสุดของซีรีส์ — 12 คอร์ / 24 เธรด, base clock 3.4 GHz, boost สูงสุด 5.4 GHz
ทุกตัวมี TDP 65W ร่วมกับ cache ขนาดใหญ่ (ประมาณ 38-76 MB) ซึ่งแม้จะลดจำนวนคอร์ในรุ่น Ryzen 9 PRO เมื่อเทียบกับ Ryzen 9 “ธรรมดา” แต่ก็อยู่ในระดับดีสำหรับงานองค์กรที่เน้นประสิทธิภาพ + ความคงทน
การเปิดตัวครั้งนี้แสดงให้เห็นกลยุทธ์ของ AMD ที่พยายามเจาะตลาดธุรกิจและภาครัฐ ด้วยฟีเจอร์เสริม เช่น security, manageability และการรองรับการ deploy แบบ enterprise-grade ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าองค์กรให้ความสำคัญมากกว่าประสิทธิภาพดิบเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ AMD ยังเคลมผลทดสอบที่เหนือกว่า Intel Core i7-14700 ในบางงาน เช่น Blender (เร็วกว่า 44%) และ productivity workloads (ดีกว่า 22%) ช่วยเสริมภาพลักษณ์ว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ
อย่างไรก็ตาม การลดจำนวนคอร์และปรับ base clock ลงในบางรุ่นอาจทำให้ประสิทธิภาพในงานที่ต้องใช้ clock ต่อเนื่องสูงลดลงบ้าง และเพราะซีรีส์ PRO วางขายผ่าน OEM เป็นหลัก ผู้ใช้ทั่วไปอาจเข้าถึงยากหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการรวมระบบ นอกจากนี้ หากความต่างด้านฟีเจอร์ยังไม่ชัดเจนพอ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจเลือกซีพียูรุ่น consumer แทน
โดยรวมแล้ว Ryzen PRO 9000 ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD แยกตลาด consumer กับ enterprise ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจบีบให้ Intel ต้องปรับกลยุทธ์ในสาย vPro เพื่อตอบโต้ และในระยะยาวผู้ใช้ทั่วไปอาจได้เห็นฟีเจอร์ความปลอดภัยบางส่วนไหลลงมาสู่รุ่นธรรมดาด้วย หากตลาดให้การตอบรับดี
แหล่งข้อมูล https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-ryzen-9000-pro-series-flagship-model-tops-out-at-12-cores-new-enterprise-lineup-includes-3-cpus-for-oems-featuring-added-business-and-security-features
Leave a Reply