หลังจาก Battlefield 2042 เปิดตัวในปี 2021 พร้อมเสียงวิจารณ์ด้านลบมหาศาล ทั้งปัญหาบั๊ก ฟีเจอร์ที่ไม่สมบูรณ์ และการออกแบบที่ไม่เข้ากับความคาดหวังของแฟน ๆ EA และทีมพัฒนาอย่าง DICE ต้องยอมรับว่าเป็น “ความล้มเหลวครั้งใหญ่” ของแฟรนไชส์ และนั่นได้กลายมาเป็นบทเรียนสำคัญที่พวกเขานำมาปรับใช้ในการสร้าง Battlefield 6
Battlefield Labs คืออะไร?
Battlefield Labs เป็นระบบ Community Testing Program ที่เปิดให้ผู้เล่นบางส่วนเข้ามาทดสอบฟีเจอร์ใหม่ เนื้อหาโหมดต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสมดุลของเกมตั้งแต่ขั้น Pre-Alpha ก่อนที่ตัวเกมจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจาก Battlefield 2042 ที่มักเปิดให้ feedback หลังเปิดตัวแล้ว — ส่งผลให้การแก้ไขช้าและเสียโอกาส
Rebecka Coutaz (GM ของ DICE และ Criterion) ยอมรับว่า Labs ทำให้ทีมพัฒนา “เปิดใจกว้างขึ้น” และไม่ยึดติดกับไอเดียแรก ๆ ที่ทีมออกแบบมา เธอบอกว่าผู้เล่นคือกระจกสะท้อนความจริงของเกม ถ้า feedback บอกว่าระบบบางอย่างไม่สนุก ก็จะต้องทบทวนตั้งแต่แรก ๆ แทนที่จะรอจนสายเกินไป
ฟังผู้เล่น แต่ยังต้องมีวิสัยทัศน์
อย่างไรก็ตาม ทีมงานก็ชัดเจนว่า “ไม่ใช่ทุก feedback จะถูกนำมาใช้ตรง ๆ”
Thomas Andersson (Creative Director ของ Battlefield 6) อธิบายว่า บางครั้งสิ่งที่ผู้เล่นเสนออาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการมองในมุมแคบของประสบการณ์ตนเอง ทีมจึงต้องใช้ข้อมูล วิเคราะห์แนวโน้มโดยรวม และคงไว้ซึ่งวิสัยทัศน์หลักของเกม Battlefield ที่เป็นเอกลักษณ์
เขาบอกว่า “คุณไม่สามารถปล่อยให้ผู้เล่นเป็นคนออกแบบเกมแทนคุณได้” แต่สิ่งที่สำคัญคือการใช้ feedback เหล่านั้นมาเป็น “เข็มทิศ” เพื่อบอกว่าควรปรับทิศทางตรงไหน และป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยเดิมของ BF 2042
สิ่งที่ Battlefield 6 ได้เรียนรู้จาก 2042
เน้น Core Gameplay ก่อน: ไม่ผลีผลามใส่ฟีเจอร์เยอะ ๆ ตั้งแต่วันแรกแบบ 2042 แต่โฟกัสให้ gunplay, การเคลื่อนไหว, และยานพาหนะสมดุลก่อน
- ทดสอบเชิงลึกกับผู้เล่นจริง: ผ่าน Battlefield Labs เพื่อให้ทีมเห็นปัญหาเร็วและแก้ทัน
- ไม่เร่งรีบตามกำหนดการตลาด: แม้ยังคงต้องปล่อยให้ทันรอบการเงินของ EA แต่บทเรียนจาก 2042 ทำให้ทีมเน้น “คุณภาพก่อน”
- เชื่อมต่อกับแฟนคลับระยะยาว: การสร้างความเชื่อใจคือกุญแจสำคัญ หากแฟน ๆ เห็นว่าทีมฟังจริงและแก้จริง จะกลับมามีความเชื่อมั่นในแฟรนไชส์
Leave a Reply