Toxic เกินเยียวยา! "Matumbaman" เปิดใจทำไมถึงเกลียดสังคม Dota 2 จนต้องตัดขาดโซเชียล

Lasse “Matumbaman” Urpalainen หนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในวงการ Dota 2 และเป็นแชมป์รายการ The International 2017 ได้ออกมาเปิดใจแบบไม่มีกั๊กถึงสาเหตุที่เขาเลือกจะถอยห่างออกจากวงการนี้

ในการปรากฏตัวล่าสุดในรายการพอดแคสต์ Unspoken ของ Khezu เขาได้บรรยายถึงผลกระทบทางจิตใจจากสภาพแวดล้อมของ Dota 2 และเหตุผลที่สังคมเกมผลักดันให้เขาออกห่างจากแสงไฟ โดยเขาเผยว่า “พูดตามตรง ผมไม่ชอบสังคม Dota เลย มันแบบว่า… ความ Toxic มันเกินควบคุมไปแล้ว ผมคิดว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพเลยที่จะต้องมาเจออะไรแบบนี้”

เขาเสริมว่า “ถึงแม้ผมจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งในคนที่โชคดีที่ไม่ต้องเจอกับพลังลบมากเท่าคนอื่นๆ แต่แค่การเล่นโหมดจัดอันดับ (Public Matchmaking) ก็เพียงพอแล้ว” ซึ่งสะท้อนความรู้สึกที่ผู้เล่นหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันมาตลอดหลายปี

ชื่อเสียด้านความ Toxic ของสังคม Dota 2

Dota 2 มีชื่อเสียงในด้านลบเรื่องความ Toxic อย่างรุนแรงมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นหัวข้อที่ถูกถกเถียงกันบน Reddit, YouTube และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง ผู้เล่นมักจะอ้างถึงการด่าทอ การกลั่นแกล้งในเกม (Griefing) และบรรยากาศการเล่นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้เกมนี้รู้สึกเหนื่อยหน่ายทางจิตใจ

แฟนเกมบางคนถึงกับตลกร้ายว่าการกดปิดเสียง (Mute) เพื่อนร่วมทีมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเริ่มเล่นเกม ในขณะที่คนอื่นๆ ตั้งคำถามอย่างเปิดเผยว่าสังคมเกมนี้จะสามารถพัฒนาขึ้นได้จริงหรือไม่ นักวิเคราะห์และครีเอเตอร์ต่างก็มีส่วนร่วมในการสนทนานี้ผ่านวิดีโอหัวข้อต่างๆ เช่น “ทำไม Dota 2 ถึง Toxic ขนาดนี้?” และ “ทำไมความ Toxic ถึงกลายเป็นเรื่องปกติ?” โดยมีการบันทึกหลักฐานว่าพฤติกรรมเชิงลบได้ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของเกมไปแล้ว

ผลกระทบทางใจและการตัดสินใจทิ้งโซเชียลมีเดีย

ในระหว่างการสัมภาษณ์ Matumbaman อธิบายว่าสภาพแวดล้อมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเขาในฐานะมืออาชีพและในเรื่องส่วนตัวอย่างไร “ผมไม่ใช้โซเชียลมีเดียเลยในช่วง 2-3 ปีหลัง ผมไม่อยากจะรับมือกับมัน เพราะมันมากเกินไปสำหรับสมองและมันปั่นป่วนจิตใจคุณจริงๆ” เขาแบ่งปัน

การตัดสินใจถอนตัวจากแพลตฟอร์มโซเชียลเกิดขึ้นในขณะที่เขาเตรียมจะยุติบทบาทการเป็นผู้เล่นอาชีพ โดยเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความเครียดที่ไม่จำเป็นเมื่อรู้ว่าเขาพร้อมที่จะก้าวออกจากวงการ Esports อย่างถาวร แม้จะยอมรับว่าการรักษาตัวตนบนโลกออนไลน์อาจช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจได้ แต่เขากล่าวว่า “การหาเงินให้ได้มากที่สุดไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำจริงๆ”

ความเห็นของเขาเพิ่มน้ำหนักให้กับการสนทนาที่ยังคงดำเนินอยู่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมของชุมชนภายในเกม Dota 2 ในขณะที่โปรเพลเยอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเริ่มออกมาพูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับแรงกดดันในวงการมากขึ้น หลายคนหวังว่ามุมมองของ Matumbaman จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลักดันเพื่อเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของเกมอย่างจริงจังเสียที

แหล่งข้อมูล dotesports